กาแฟดำกับกาแฟไม่มีคาเฟอีน ผลต่อสุขภาพแตกต่างกันอย่างไร

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF

กาแฟดำกับกาแฟไม่มีคาเฟอีน ผลต่อสุขภาพแตกต่างกันอย่างไร

กาแฟดำกับกาแฟไม่มีคาเฟอีน ผลต่อสุขภาพแตกต่างกันอย่างไร

รู้ไหม กาแฟที่เพื่อนๆดื่มทุกวันอาจส่งผลต่อร่างกายมากกว่าที่คิด

ถ้าเพื่อนๆเป็นคนหนึ่งที่ต้องเริ่มวันใหม่ด้วยกาแฟสักแก้ว หรืออาจดื่มเป็นประจำเพื่อเพิ่มพลังงานระหว่างวัน เรื่องนี้น่าสนใจมาก เพราะกาแฟดำกับกาแฟไม่มีคาเฟอีนไม่ได้ให้แค่รสชาติที่ต่างกัน แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพในแบบที่เพื่อนๆอาจคาดไม่ถึง เรามาดูกันดีกว่าว่าเจ้าเครื่องดื่มยอดฮิตทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเพื่อนๆมากที่สุด

รู้ลึก รู้จริง เปรียบเทียบผลต่อสุขภาพระหว่างกาแฟดำกับกาแฟไม่มีคาเฟอีน

กาแฟดำ (Black Coffee) คืออะไร

กาแฟดำคือกาแฟที่ชงจากเมล็ดกาแฟคั่วบดโดยไม่เติมนมหรือครีม ทำให้ได้รสชาติเข้มข้นและมีคาเฟอีนสูง ซึ่งคาเฟอีนเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อร่างกาย ดังนี้

ประโยชน์ของกาแฟดำ

  • เพิ่มพลังงานและสมาธิ คาเฟอีนช่วยกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ตื่นตัวและมีสมาธิมากขึ้น
  • เร่งการเผาผลาญ ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  • อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบและปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
  • ลดความเสี่ยงโรคบางชนิด เช่น เบาหวานชนิดที่ 2, อัลไซเมอร์, และพาร์กินสัน

ข้อควรระวังของการดื่มกาแฟดำ

  • นอนไม่หลับหรือกระสับกระส่าย หากดื่มมากเกินไปหรือดื่มในช่วงบ่ายถึงเย็น
  • ทำให้หัวใจเต้นเร็ว อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูงหรือหัวใจ
  • กระตุ้นกรดในกระเพาะ อาจทำให้แสบร้อนกลางอกหรือกรดไหลย้อน

กาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaf Coffee) คืออะไร

กาแฟชนิดนี้ผ่านกระบวนการสกัดคาเฟอีนออกไปประมาณ 97% ทำให้มีคาเฟอีนเหลือน้อยมาก (ประมาณ 2-5 มก. ต่อแก้ว เทียบกับกาแฟปกติที่อาจมี 70-140 มก.)

ประโยชน์ของกาแฟไม่มีคาเฟอีน

  • เหมาะสำหรับคนไวต่อคาเฟอีน ไม่ทำให้กระวนกระวายหรือนอนไม่หลับ
  • ลดความเสี่ยงอาการใจสั่น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหัวใจหรือความดัน
  • ยังได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ แม้กระบวนการสกัดคาเฟอีนอาจลดสารบางชนิด แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • ดื่มได้ตลอดวัน ไม่กระทบการนอนแม้ดื่มช่วงเย็น

ข้อจำกัดของกาแฟไม่มีคาเฟอีน

  • รสชาติอาจจางกว่า กระบวนการสกัดคาเฟอีนอาจทำให้รสสัมผัสเปลี่ยนไป
  • ยังมีคาเฟอีนเล็กน้อย ไม่เหมาะกับคนที่ต้องหลีกเลี่ยงคาเฟอีนโดยสิ้นเชิง
  • อาจมีสารเคมีตกค้าง บางวิธีการสกัดใช้สารเคมี เช่น เอทิลอะซีเตต

แล้วแบบไหนดีกว่ากัน

คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับคุณ
ถ้าเพื่อนๆต้องการพลังงานและสมาธิ กาแฟดำคือตัวเลือกที่ดี
ถ้าเพื่อนๆมีปัญหาการนอนหรือสุขภาพหัวใจ กาแฟไม่มีคาเฟอีนอาจเหมาะกว่า
ถ้าเพื่อนๆดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ ทั้งสองแบบมีสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ควรเลือกชนิดที่เหมาะสมกับร่างกายตัวเอง

ทำไมเพื่อนๆควรสนใจเรื่องนี้

เพราะกาแฟไม่ใช่แค่เครื่องดื่มธรรมดาๆ แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว การเลือกดื่มกาแฟให้เหมาะกับสภาพร่างกายและไลฟ์สไตล์จะช่วยให้คุณได้ประโยชน์สูงสุด และหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

  • ถ้าเพื่อนๆดื่มกาแฟดำแต่รู้สึกใจสั่นหรือนอนไม่หลับ → ลองเปลี่ยนมาดื่มแบบไม่มีคาเฟอีนบ้าง
  • ถ้าเพื่อนๆชอบกาแฟไม่มีคาเฟอีนแต่ต้องการพลังงานยามเช้า → อาจสลับมาดื่มกาแฟดำเป็นบางครั้ง

รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมฟังเสียงร่างกายตัวเองนะ

ลองปรับเปลี่ยนวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

เริ่มสังเกตตัวเองดูสิว่ากาแฟแบบไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด ถ้าวันไหนต้องทำงานหนักหรือออกกำลังกาย ลองดื่มกาแฟดำเพื่อเพิ่มพลังงาน แต่ถ้าวันไหนอยากผ่อนคลายหรือดื่มกาแฟเวลาบ่ายแก่ๆ ก็เลือกแบบไม่มีคาเฟอีนแทน

อย่าลืมว่า การดื่มกาแฟควรเป็นเรื่องสนุกและดีต่อสุขภาพ ไม่ใช่แค่การเติมคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายเฉยๆ ลองปรับสมดุลและเลือกชนิดที่เหมาะกับคุณ แล้วเพื่อนๆจะรู้สึกถึงความแตกต่าง

มีอะไรสงสัยหรืออยากแชร์ประสบการณ์การดื่มกาแฟของตัวเองบ้างไหม มาแลกเปลี่ยนกันได้นะ เรายินดีฟังเสมอ

 

 

Rosalyn Banner

อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์ แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ

⚠️

Disclaimer

ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเพื่อประกอบการตัดสินใจ ทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจตามข้อมูลที่ได้รับ

ArticleID: 2429

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF