วิธีดื่มกาแฟให้มีผลดีต่อสุขภาพตามหลักวิทยาศาสตร์

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF

วิธีดื่มกาแฟให้มีผลดีต่อสุขภาพตามหลักวิทยาศาสตร์

วิธีดื่มกาแฟให้มีผลดีต่อสุขภาพตามหลักวิทยาศาสตร์

ดื่มกาแฟแบบนี้สิสุขภาพดี๊ดี แถมสดชื่นทั้งวัน

ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่ตื่นมาก็ต้องหอมกลิ่นกาแฟทุกเช้า หรือบางทีอาจดื่มตลอดวันเพื่อเพิ่มพลังงาน เราเข้าใจเลยว่ากาแฟคือส่วนสำคัญของชีวิต แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าถ้าดื่มไม่ถูกวิธี นอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้ว อาจทำให้เครียดหรือนอนไม่หลับอีกด้วย วันนี้แอดรินจะมาแชร์วิธีดื่มกาแฟแบบวิทยาศาสตร์ ที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ รับรองว่าเพื่อนๆ จะได้ประโยชน์เต็มๆ แบบไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงเลย

วิธีดื่มกาแฟให้ดีต่อสุขภาพทำตามนี้เลย

1. เลือกเวลาดื่มให้เหมาะสม

การดื่มกาแฟตอนที่ร่างกายพร้อมจะช่วยให้ได้ประโยชน์สูงสุด จากงานวิจัยพบว่า เวลาที่ดีที่สุด คือ 9.30 – 11.30 น. และ หลังบ่าย 3 โมงเย็น เพราะระดับคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ของเราต่ำในช่วงนี้ ทำให้กาแฟช่วยเพิ่มพลังงานได้ดีโดยไม่รบกวนระบบร่างกาย

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
– ห้ามดื่มทันทีหลังตื่นนอน (6-8 โมงเช้า) เพราะคอร์ติซอลสูงอยู่แล้ว อาจทำให้ร่างกายเสพติดคาเฟอีนหนักขึ้น
– ไม่ควรดื่มหลังบ่าย 2 โมงเย็น ถ้าเป็นคนนอนหลับยาก เพราะคาเฟอีนอาจอยู่ในร่างกายนานถึง 8 ชั่วโมง

2. ปริมาณที่พอดีแค่ไหนถึงเรียกว่าดี

องค์การอาหารและยา (FDA) แนะนำว่า ปริมาณคาเฟอีนที่ปลอดภัยต่อวันคือไม่เกิน 400 มิลลิกรัม หรือประมาณ 2-3 แก้ว (แก้วละ 240 มล.) แต่สำหรับบางคนที่กระเพาะไวหรือความดันไม่ปกติ อาจต้องลดเหลือ 1-2 แก้วต่อวัน

เทียบปริมาณคาเฟอีนในกาแฟแต่ละแบบ
– กาแฟดำ (เอสเปรสโซ่ 1 ช็อต) ≈ 63 มก.
– อเมริกาโน่ 1 แก้ว ≈ 150 มก.
– คาปูชิโน่/ลาเต้ ≈ 80-120 มก.
– กาแฟสำเร็จรูป ≈ 60-80 มก.

3. เลือกชนิดกาแฟให้เหมาะกับสุขภาพ

  • กาแฟดำ (ไม่เติมน้ำตาล) → ดีที่สุด ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานและช่วยเผาผลาญไขมัน
  • กาแฟนมพืช (อัลมอนด์, โอ๊ตมilk) → เหมาะกับคนที่แพ้นมวัว หรืออยากลดแคลอรี
  • กาแฟสูตรเย็น แต่เลือกน้ำตาลน้อยหรือใช้หญ้าหวานแทน → ลดความอ้วน

สิ่งที่ควรเลี่ยง
– กาแฟที่ใส่ครีมเทียมและไซรัปปริมาณมาก เพราะมีน้ำตาลและไขมันสูง
– กาแฟกระป๋องหรือกาแฟสำเร็จรูปบางยี่ห้อที่มีน้ำตาลเกิน 20 กรัมต่อแก้ว

4. ดื่มน้ำตามให้เพียงพอ

คาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ ทางที่ดี ทุกๆ 1 แก้วกาแฟ ควรดื่มน้ำตาม 1 แก้ว เพื่อป้องกันอาการปวดหัวหรือผิวแห้ง

5. อาหารเสริมที่ควรกินคู่กับกาแฟ

เพื่อนๆ สามารถเพิ่มประโยชน์ให้กาแฟได้ด้วยการกินควบคู่กับ
แมกนีเซียม (พบในอัลมอนด์, เมล็ดฟักทอง) → ช่วยลดอาการเครียดจากคาเฟอีน
ไฟเบอร์ (ผลไม้, ข้าวโอ๊ต) → ป้องกันกรดในกระเพาะ

แล้วได้อะไรถ้าดื่มกาแฟแบบนี้

ถ้าเพื่อนๆ ปรับตามเคล็ดลับที่เราแนะนำ จะเห็นผลดีแบบนี้แน่นอน
พลังงานสดชื่นยาวนาน โดยไม่หมดพลังกระทันหัน
ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานและสมองเสื่อม เพราะสารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟดำช่วยได้
ผิวไม่แห้งกร้าน เนื่องจากดื่มน้ำตามเพียงพอ
หลับสบายมากขึ้น เพราะไม่ดื่มกาแฟใกล้เวลานอน
ไม่อ้วนง่าย เพราะควบคุมปริมาณน้ำตาลและครีมเทียม

และที่สำคัญ กาแฟจะกลายเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจริงๆ แบบที่เพื่อนๆ ไม่รู้สึกผิดทุกครั้งที่ดื่ม

มาเริ่มเปลี่ยนวิธีดื่มกาแฟกันเลยดีกว่า

เพื่อนๆ คะวันนี้แค่อ่านอย่างเดียวไม่พอ ลองเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการ
ตั้งกฎเวลาในการดื่ม (เช่น ไม่ดื่มหลังบ่าย 2)
สั่งกาแฟครั้งหน้าแบบหวานน้อย หรือเปลี่ยนเป็นนมพืช
จิบน้ำตามทุกครั้งหลังดื่มกาแฟ

แค่ปรับนิดเดียวสุขภาพดีขึ้นแน่นอน ถ้าเพื่อนๆ ลองทำแล้วได้ผล อย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะ เรารอฟังอยู่

 

 

Rosalyn Banner

อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์ แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ

⚠️

Disclaimer

ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเพื่อประกอบการตัดสินใจ ทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจตามข้อมูลที่ได้รับ

ArticleID: 1006

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF